เราในฐานะผู้บริโภคมีสิทธิ์ขอเงินคืนเต็มจำนวน เมื่อสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับความต้องการหรือมีลักษณะชำรุดบกพร่อง อย่างไรก็ตาม แต่ละร้านค้าก็มีเงื่อนไขหรือนโยบายรับมือที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากต้องการขอคืนเงินร้านค้าออนไลน์แต่ละช่องทาง สามารถทำได้ ดังนี้
* ติดต่อผ่านทางข้อความ โทรศัพท์ หรือแจ้งเข้าไปในระบบเว็บไซต์
หากเป็นร้านค้าในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ฯลฯ สามารถพิมพ์ข้อความไปในอินบ็อกซ์ หรือโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ขายโดยตรง เพื่อเล่าถึงปัญหาและแสดงความต้องการขอคืนเงิน โดยจะทำการขอคืนเงินผ่านรูปแบบ Mobile Banking หรือวิธีอื่น ๆ ก็แล้วแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน
ส่วนเว็บไซต์ผู้ผลิตและจำหน่ายโดยตรง หรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ เช่น ลาซาด้า หรือ ช้อปปี้ ให้ทำตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์เหล่านี้จะคืนเงินต่อเมื่อเราได้ยกเลิกสินค้าหรือคืนสินค้าแล้วเท่านั้น
โดยหากต้องการคืนสินค้าเพื่อขอคืนเงิน ให้เข้าไปในระบบแล้วส่งคำสั่งคืนสินค้า เมื่อขั้นตอนการคืนสินค้าเสร็จเรียบร้อย ระบบจะทำการคืนเงินผ่านช่องทางที่ผู้ซื้อได้ชำระเงินเข้ามา ซึ่งระยะเวลาในการคืนเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ ก็อาจแตกต่างกันไป เช่น ถ้าชำระเงินปลายทาง เอทีเอ็ม โมบายแบงกิ้ง จะคืนเงินภายใน 1 วัน ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือการผ่อนชำระ คืนเงินภายใน 7-15 วันทำการ ชำระผ่านบัตรเดบิต คืนเงินใน 45 วันทำการ เป็นต้น
ทั้งนี้ ก่อนคืนสินค้าและขอคืนเงิน ควรอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขให้ดี เพราะสินค้าบางประเภทก็ไม่รับเปลี่ยนรับคืน เช่น หนังสือและนิตยสารออนไลน์ บัตรเติมเงิน ภาพยนตร์ เพลง ซอฟต์แวร์ออนไลน์ ฯลฯ รวมถึงหากบรรจุภัณฑ์เปิดออก หรือสินค้าเกิดความเสียหายขึ้น ก็เปลี่ยนไม่ได้เช่นกัน จึงควรปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดก่อนคืนสินค้า
* ทำหนังสือบอกเลิกสัญญาและขอคืนเงิน
หากไม่สามารถตกลงกับผู้ขายผ่านข้อความหรือพูดคุยกัน ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ว่า ต้องแสดงเจตนายกเลิกสัญญาถึงผู้ขาย ด้วยการทำหนังสือ เพื่อเราจะได้มีหลักฐานไว้ยืนยันว่ามีความต้องการขอคืนเงินตั้งแต่ต้น โดยส่งให้กับทางร้านโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในโซเชียลมีเดีย หรือร้านค้าในเว็บไซต์ ในรูปแบบของจดหมาย อีเมล (E-mail) หรือไปรษณีย์ลงทะเบียน ลงวันเวลาที่ผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญา โดยระยะเวลาที่ควรดำเนินการขึ้นอยู่กับวิธีที่เราได้ชำระเงิน คือ
>> ชำระเงินแบบโอนเงิน : เรามีสิทธิ์ขอคืนเงินจากผู้ขายได้ หากสินค้าชำรุดและไม่ตรงปก โดยทำหนังสือยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินส่งไปยังผู้ขาย ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสินค้า
>> กรณีชำระเงินแบบบัตรเครดิต : เราสามารถใช้สิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้ โดยทำเป็นหนังสือยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินถึงผู้ขายภายใน 45 วัน นับแต่วันสั่งซื้อสินค้า หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถึงวันกำหนดส่งมอบสินค้า โดยผู้ขายเมื่อได้รับหนังสือแล้วจะต้องคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ หากผู้ขายไม่คืนเงิน กฎหมายยังอนุญาตให้ผู้บริโภคสามารถยึดสินค้าไว้จนกว่าจะได้รับเงินคืนอีกด้วย ในทุกแพลตฟอร์มของร้านค้าออนไลน์
สำหรับการทำหนังสือบอกเลิกสัญญา เพื่อแสดงเจตนาขอคืนเงิน มีรายละเอียดดังนี้
1. สถานที่ที่ทำหนังสือ
2. วัน/เดือน/ปี
3. เรื่อง บอกเลิกสัญญา
4. เรียน ชื่อร้านค้า บริษัท................
5. ย่อหน้าแรก บอกว่าเราเป็นใคร ซื้อสินค้าอะไร เมื่อวันที่เท่าไหร่ เกิดปัญหาอย่างไร ย่อหน้าที่สอง บอกขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนเป็นจำนวนเท่าไหร่ และกำหนดระยะเวลาในการคืนเงิน
6. ขอแสดงความนับถือ และลงลายมือชื่อ
7. ข้อมูลการติดต่อกลับ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
ภาพจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
เมื่อดำเนินการติดต่อร้านค้าแล้ว แต่ฝ่ายนั้นไม่แสดงความรับผิดชอบ กรณีซื้อสินค้าแล้วชำรุด ไม่ตรงปก หรือไม่ว่าในกรณีใดก็ตามที่ทำให้เกิดความเสียหาย ให้นำหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ทั้งหมดเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือจะร้องเรียนกับหน่วยงานอื่น ๆ ก็ได้ เช่น
* ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ถือเป็นหน่วยงานหลักที่คอยดูแลการซื้อ-ขายออนไลน์อยู่แล้ว ใครมีปัญหาอะไรก็สามารถร้องเรียนได้ที่นี่เลย ซึ่งหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่ประสานงานไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมกับให้คำแนะนำ คำปรึกษาปัญหาที่เกิดจากการซื้อ-ขายทางออนไลน์
ติดต่อได้ที่สายด่วนหมายเลข 1212
เว็บไซต์ : etda.or.th
อีเมล : 1212@mdes.go.th
* สายด่วนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) รับเรื่องเรียนกรณีเกิดฉ้อโกง หลอกลวงผู้บริโภค
ติดต่อได้ที่สายด่วนหมายเลข 1135
เว็บไซต์ : cppd.go.th
* สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในกรณีซื้อสินค้าแล้วพบว่าไม่เหมือนกับที่มีการโฆษณา สามารถร้องเรียนกับ อย. ได้ เพราะเป็นหน่วยงานดูแลเรื่องการโฆษณาส่งเสริมการขายที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดสาระสำคัญ โดยสินค้าประเภทที่ร้องเรียนกับ อย. ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตราย เป็นต้น
ติดต่อได้ที่สายด่วน 1556
เว็บไซต์ : fda.moph.go.th
อีเมล: complain@fda.moph.go.th
* สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากซื้อสินค้าแล้ว ตรวจสอบดูพบว่าสัญญาการซื้อ-ขาย หรือใบรับประกันต่าง ๆ ไม่มีความเป็นธรรม สามารถร้องทุกข์กับ สคบ. ให้ดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ย ตลอดจนดำเนินคดีกับผู้ขายได้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราในฐานะผู้บริโภค
ติดต่อได้ที่สายด่วน 1166
เว็บไซต์ : ocpb.go.th
อีเมล : consumer@ocpb.go.th
หรือสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่กี่วิธี ดังนี้
1. เข้าเว็บไซต์ ocpb.go.th
2. คลิกลงทะเบียน
3. อ่านข้อควรทราบ คลิกยืนยัน และกดยอมรับเงื่อนไข
4. กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ แล้วกดยืนยันการบันทึกข้อมูล
5. ระบบจะส่ง Password ให้ที่ E-mail นำมาใช้ Log in
6. คลิกเลือก "ร้องทุกข์ออนไลน์" เลือกเรื่องที่ต้องการ กรอกข้อมูลและทำตามขั้นตอนของระบบ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
* กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หากพบว่ามีการโก่งราคาสินค้าสูงกว่าราคาตลาด หรือแสดงราคาที่เป็นเท็จ สามารถร้องเรียนกับกรมการค้าภายใน เพื่อให้ตรวจสอบราคา ปริมาณสินค้าและความไม่เป็นธรรมทางการค้าของผู้ประกอบการ
ติดต่อได้ที่สายด่วน 1569
เว็บไซต์ : dit.go.th
อีเมล: 1569@dit.go.th
* มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) หากได้รับความเดือดร้อนจากการใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน อาหารและยา บริการขนส่งสาธารณะ ที่อยู่อาศัย สามารถติดต่อองค์กรนี้ เพื่อให้ช่วยเหลือและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้เลย
ติดต่อได้ที่เบอร์ 02-2483737 หรือร้องทุกข์ออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ consumerthai.com
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ETDA Thailand
แม้จะมีการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนกันขึ้นจริง แต่หากของนั้นไม่มีสภาพตรงตามที่ตกลงแบบนี้ ผู้ขายอาจจะมีความผิดตามข้อหา....
- ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้ แจ้งให้ทราบ มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มีอายุความ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด ดังนั้น หากรู้ตัวว่าถูกโกงให้รีบแจ้งความภายใน 3 เดือน)
- ขายของโดยหลอกลวง มาตรา 271 หลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้น ซึ่งการหลอกลวงนี้อาจเป็นการหลอกลวงโดยวาจาหรือกิริยาก็ได้ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำตอบก็คือ ไม่มีทางรู้ได้เลย เพราะผู้ขายออนไลน์ต่างก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี เราจึงต้องมีมาตรการป้องกันและรับมือด้วยตนเองหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก่อนซื้อของออนไลน์ทุกครั้งคือ
หากคิดจะซื้อของออนไลน์ เราควรรู้สิทธิ์ในฐานะผู้บริโภคด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และทำให้ผู้ที่ขายของออนไลน์ ไม่กล้าเอารัดเอาเปรียบ อันจะส่งผลให้การค้าขายรูปแบบนี้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน), เฟซบุ๊ก ETDA Thailand, เฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, เฟซบุ๊ก พูดคุยภาษากฎหมาย